ดูรายการขายแยกตามสินค้า (Sell Item View)
   
graphic
สามารถเข้าใช้งานหัวข้อนี้ได้จากเมนู [ Sell (ขาย) -> Sell Item View (รายการขายแยกตามสินค้า) ]
หัวข้อนี้ มีไว้สำหรับ  ดูรายการขายสินค้าที่เคยขายไป โดยเป็นการดูแบบแยกตามสินค้า เช่น ภายในช่วงเวลานี้ เราขายสินค้าอะไรมากี่ชิ้นบ้าง หรือ ขายสินค้ารายการนี้ให้กับลูกค้ารายไหนบ้าง อย่างละเท่าไหร่ เป็นต้น

ดูรายการขายแยกตามสินค้า (Sell Item View) มีวิธีการใช้งานดังต่อไปนี้
graphic

1. ส่วนที่ใช้สำหรับค้นหาข้อมูล - เป็นส่วนที่ใช้ระบุขอบเขตในการค้นหาข้อมูลให้แคบลง ในกรณีที่มีข้อมูล เยอะ การระบุขอบเขตในการค้นหาจะช่วยทำให้หาข้อมูลได้เร็วขึ้น สามารถค้นหาข้อมูลได้จาก
                - Product Name - ชื่อสินค้า
                - Product Code - รหัสสินค้า
                - Product Barcode - บาร์โค้ดสินค้า
                - Serial Number - หมายเลข Serial Number
                                - หากไม่เช็คถูกตรงคำว่า Serial Number โปรแกรมจะแสดงผลการค้นหา โดยไม่แสดง Serial Number
                                - หากเช็คถูกตรงคำว่า Serial Number แล้วไม่ระบุ Serial Number ที่ต้องการค้นหา โปรแกรมจะแสดงผลการค้นหา โดยถ้าหากสินค้าไหนมี Serial Number ก็จะแยกมาแสดงให้ดูใน 1 Serial Number ต่อ 1 บรรทัด
                                - หากเช็คถูกตรงคำว่า Serial Number แล้วระบุ Serial Number ที่ต้องการค้นหา โปรแกรมจะแสดงผลการค้นหา เฉพาะรายการสินค้าที่มี Serial Number ตามที่ได้ระบุไว้
                - Product Group (กลุ่มสินค้า) - กลุ่มสินค้า
                                - หากไม่เช็คถูกตรงคำว่า Product Group (กลุ่มสินค้า) โปรแกรมจะแสดงผลการค้นหา โดยไม่แสดง กลุ่มสินค้า
                                - หากเช็คถูกตรงคำว่า Product Group (กลุ่มสินค้า) แล้ว ไม่ระบุ กลุ่มสินค้า ที่ต้องการค้นหา โปรแกรมจะแสดงผลการค้นหา โดยแยกผลการค้นหาออกเป็นแต่ละกลุ่มสินค้า
                                - หากเช็คถูกตรงคำว่า Product Group (กลุ่มสินค้า) แล้ว ระบุ กลุ่มสินค้า ที่ต้องการค้นหา โปรแกรมจะแสดงผลการค้นหา เฉพาะรายการสินค้าที่อยู่ใน กลุ่มสินค้า ตามที่ได้ระบุไว้
                - Brand (ยี่ห้อสินค้า) - ยี่ห้อสินค้า
                                - หากไม่เช็คถูกตรงคำว่า Brand (ยี่ห้อสินค้า) โปรแกรมจะแสดงผลการค้นหา โดยไม่แสดง ยี่ห้อสินค้า
                                - หากเช็คถูกตรงคำว่า Brand (ยี่ห้อสินค้า) แล้ว ไม่ระบุ ยี่ห้อสินค้า ที่ต้องการค้นหา โปรแกรมจะแสดงผลการค้นหา โดยแยกผลการค้นหาออกเป็นแต่ละยี่ห้อสินค้า
                                - หากเช็คถูกตรงคำว่า Brand (ยี่ห้อสินค้า) แล้ว ระบุ ยี่ห้อสินค้า ที่ต้องการค้นหา โปรแกรมจะแสดงผลการค้นหา เฉพาะรายการสินค้าที่มี ยี่ห้อสินค้า ตามที่ได้ระบุไว้
                - Customer Name (ชื่อลูกค้า) - ชื่อผู้จำหน่าย
                                - หากไม่เช็คถูกตรงคำว่า Customer Name (ชื่อลูกค้า) โปรแกรมจะแสดงผลการค้นหา โดยไม่แสดง ชื่อลูกค้า
                                - หากเช็คถูกตรงคำว่า Customer Name (ชื่อลูกค้า) แล้ว ไม่ระบุ ชื่อลูกค้า ที่ต้องการค้นหา โปรแกรมจะแสดงผลการค้นหา โดยแยกผลการค้นหาออกเป็น ชื่อลูกค้า แต่ละราย
                                - หากเช็คถูกตรงคำว่า Customer Name (ชื่อลูกค้า) แล้ว ระบุ ชื่อลูกค้า ที่ต้องการค้นหา โปรแกรมจะแสดงผลการค้นหา เฉพาะรายการสินค้าที่ขายไปให้ ลูกค้า รายที่ได้ระบุไว้
                - Sell ID - ID ของใบขายที่โปรแกรมสร้างขึ้น
                                - หากไม่เช็คถูกตรงคำว่า Sell ID โปรแกรมจะแสดงผลการค้นหา โดยไม่แสดง Sell ID
                                - หากเช็คถูกตรงคำว่า Sell ID แล้ว ไม่ระบุ Sell ID (ป้อนค่า 0 ในช่อง Sell ID) ที่ต้องการค้นหา โปรแกรมจะแสดงผลการค้นหา โดยแยกผลการค้นหาออกเป็นแต่ละ Sell ID
                                - หากเช็คถูกตรงคำว่า Sell ID  แล้ว ระบุ Sell ID ที่ต้องการค้นหา โปรแกรมจะแสดงผลการค้นหา เฉพาะรายการสินค้าที่ขายไปจากใบขายตาม ID ที่ได้ระบุไว้
                                - ในการเช็คถูก Sell ID, Doc No.(เลขที่เอกสาร) และ Invoice No.(เลขที่ใบกำกับ) จะสัมพันธ์กัน กล่าวคือหากเช็คถูกในข้อใดข้อหนึ่ง อีก 2 ช่องจะถูกเช็คถูกตามไปด้วย หรือหากเอาเช็คถูกออกจากช่องในช่องหนึ่ง อีก 2 ช่องที่เหลือก็กจะถูกเอา เครื่องหมายเช็คถูกออกไปด้วย
                - Doc No.(เลขที่เอกสาร) - เลขที่เอกสาร
                                - หากไม่เช็คถูกตรงคำว่า Doc No.(เลขที่เอกสาร) โปรแกรมจะแสดงผลการค้นหา โดยไม่แสดง Sell ID
                                - หากเช็คถูกตรงคำว่า Doc No.(เลขที่เอกสาร) แล้ว ไม่ระบุ เลขที่เอกสาร (ป้อนค่า 0 ในช่อง Doc No.(เลขที่เอกสาร))  ที่ต้องการค้นหา โปรแกรมจะแสดงผลการค้นหา โดยแยกผลการค้นหาออกเป็นแต่ละ เลขที่เอกสาร
                                - หากเช็คถูกตรงคำว่า Doc No.(เลขที่เอกสาร)  แล้ว ระบุ เลขที่เอกสาร ที่ต้องการค้นหา โปรแกรมจะแสดงผลการค้นหา เฉพาะรายการสินค้าที่ขายไปจากใบขายตาม เลขที่เอกสาร ที่ได้ระบุไว้
                                - ในการเช็คถูก Sell ID, Doc No.(เลขที่เอกสาร) และ Invoice No.(เลขที่ใบกำกับ) จะสัมพันธ์กัน กล่าวคือหากเช็คถูกในข้อใดข้อหนึ่ง อีก 2 ช่องจะถูกเช็คถูกตามไปด้วย หรือหากเอาเช็คถูกออกจากช่องในช่องหนึ่ง อีก 2 ช่องที่เหลือก็กจะถูกเอา เครื่องหมายเช็คถูกออกไปด้วย
                - Invoice No.(เลขที่ใบกำกับ) - เลขที่ใบกำกับ
                                - หากไม่เช็คถูกตรงคำว่า Invoice No.(เลขที่ใบกำกับ) โปรแกรมจะแสดงผลการค้นหา โดยไม่แสดง เลขที่ใบกำกับ
                                - หากเช็คถูกตรงคำว่า Invoice No.(เลขที่ใบกำกับ) แล้ว ไม่ระบุ เลขที่ใบกำกับ ที่ต้องการค้นหา โปรแกรมจะแสดงผลการค้นหา โดยแยกผลการค้นหาออกเป็นแต่ละ เลขที่ใบกำกับ
                                - หากเช็คถูกตรงคำว่า Invoice No.(เลขที่ใบกำกับ) แล้ว ระบุ เลขที่ใบกำกับ ที่ต้องการค้นหา โปรแกรมจะแสดงผลการค้นหา เฉพาะรายการสินค้าที่ขายไปจากใบขายตาม เลขที่ใบกำกับ ที่ได้ระบุไว้
                                - ในการเช็คถูก Sell ID, Doc No.(เลขที่เอกสาร) และ Invoice No.(เลขที่ใบกำกับ) จะสัมพันธ์กัน กล่าวคือหากเช็คถูกในข้อใดข้อหนึ่ง อีก 2 ช่องจะถูกเช็คถูกตามไปด้วย หรือหากเอาเช็คถูกออกจากช่องในช่องหนึ่ง อีก 2 ช่องที่เหลือก็กจะถูกเอา เครื่องหมายเช็คถูกออกไปด้วย
                - Officer Name (พนักงานขาย) - พนักงานขาย
                                - หากไม่เช็คถูกตรงคำว่า Officer Name (พนักงานขาย) โปรแกรมจะแสดงผลการค้นหา โดยไม่แสดง พนักงานขาย
                                - หากเช็คถูกตรงคำว่า Officer Name (พนักงานขาย) แล้ว ไม่ระบุ พนักงานขาย ที่ต้องการค้นหา โปรแกรมจะแสดงผลการค้นหา โดยแยกผลการค้นหาออกเป็น พนักงานขาย แต่ละราย
                                - หากเช็คถูกตรงคำว่า Officer Name (พนักงานขาย) แล้ว ระบุ พนักงานขาย ที่ต้องการค้นหา โปรแกรมจะแสดงผลการค้นหา เฉพาะรายการสินค้าที่ขายโดย พนักงานขาย รายที่ได้ระบุไว้
                - Start Date (ตั้งแต่วันที่) - ระบุวันที่เริ่มต้นที่ต้องการค้นหา
                - End Date (ถึงวันที่) - ระบุวันสิ้นสุดที่ต้องการค้นหา
                - Branch Name (ชื่อสาขา) - สาขา
                                - หากไม่เช็คถูกตรงคำว่า Branch Name (สาขา) โปรแกรมจะแสดงผลการค้นหา โดยไม่แสดง สาขา
                                - หากเช็คถูกตรงคำว่า Branch Name (สาขา) แล้ว ไม่ระบุ สาขา ที่ต้องการค้นหา โปรแกรมจะแสดงผลการค้นหา โดยแยกผลการค้นหาออกเป็น สาขา แต่ละสาขา
                                - หากเช็คถูกตรงคำว่า Branch Name (สาขา) แล้ว ระบุ สาขา ที่ต้องการค้นหา โปรแกรมจะแสดงผลการค้นหา เฉพาะรายการขายสินค้าของ สาขา ที่ได้ระบุไว้
                - Client ID (หมายเลขเครื่อง) - หมายเลขเครื่องภายในสาขา
                                - หากไม่เช็คถูกตรงคำว่า Client ID (หมายเลขเครื่อง) โปรแกรมจะแสดงผลการค้นหา โดยไม่แสดง หมายเลขเครื่องที่ทำรายการขาย
                                - หากเช็คถูกตรงคำว่า Client ID (หมายเลขเครื่อง) แล้ว ไม่ระบุ หมายเลขเครื่อง ที่ต้องการค้นหา โปรแกรมจะแสดงผลการค้นหา โดยแยกผลการค้นหาออกเป็น หมายเลขเครื่อง แต่ละเครื่อง
                                - หากเช็คถูกตรงคำว่า Client ID (หมายเลขเครื่อง) แล้ว หมายเลขเครื่อง ที่ต้องการค้นหา โปรแกรมจะแสดงผลการค้นหา เฉพาะรายการขายสินค้าของ หมายเลขเครื่อง ที่ได้ระบุไว้

2. ส่วนตาราง Sell Item (รายการสินค้าแยกตามสินค้า) - จะมีหัวข้อที่แสดงในตาราง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขในการค้นหา ซึ่งมีหัวข้อดังต่อไปนี้
                - Branch (สาขา) - สาขา
                - ID เครื่อง - หมายเลขเครื่องภายในสาขา
                - พนักงานขาย - พนักงานขาย
                - ชื่อลูกค้า - ชื่อลูกค้า
                - Sell ID - ID ของใบขายสินค้าที่โปรแกรมสร้างขึ้น
                - Doc No. - เลขที่เอกสาร
                - Invoice No. - เลขที่ใบกำกับ
                - Doc Date - วันที่เอกสาร
                - กลุ่มสินค้า - กลุ่มสินค้า
                - ยี่ห้อสินค้า - ยี่ห้อสินค้า
                - รหัสสินค้า - รหัสสินค้า
                - Barcode - บาร์โค้ดสินค้า
                - ชื่อสินค้า - ชื่อสินค้า
                - SN - Serial Number
                - จำนวน - จำนวนขายทั้งหมด (แสดงเป็นหน่วยเล็กที่สุดเท่านั้น)
                - หน่วย - หน่วยเล็กที่สุด
                - รวมกำไร ก่อนหักภาษี - กำไรรวมทั้งหมดในบรรทัดนี้ ก่อนหักภาษี
                - รวมกำไร หลังหักภาษี - กำไรรวมทั้งหมดในบรรทัดนี้ หลังหักภาษี
                - ขายต่อหน่วย ไม่รวมภาษี - ราคาขายเฉลี่ยต่อหน่วย ยังไม่รวมภาษี
                - ซื้อต่อหน่วย ไม่รวมภาษี - ราคาซื้อเฉลี่ยต่อหน่วย ยังไม่รวมภาษี
                - กำไรต่อหน่วย หักภาษีแล้ว - กำไรต่อหน่วยหักภาษีแล้ว (ขายต่อหน่วย ไม่รวมภาษี - ซื้อต่อหน่วยไม่รวมภาษี)
                - ขายต่อหน่วย รวมภาษีแล้ว - ราคาขายเฉลี่ยต่อหน่วย รวมภาษีแล้ว
                - ซื้อต่อหน่วย รวมภาษีแล้ว - ราคาซื้อเฉลี่ยต่อหน่วย รวมภาษีแล้ว
                - กำไรต่อหน่วย ก่อนหักภาษี - กำไรต่อหน่วยก่อนหักภาษี (ขายต่อหน่วย รวมภาษีแล้ว - ซื้อต่อหน่วยรวมภาษีแล้ว)
                - รวมขาย ไม่รวมภาษี - ราคาขายทั้งหมดในบรรทัดนี้ ยังไม่รวมภาษี (ราคาขายต่อหน่วย ไม่รวมภาษี x จำนวน)
                - รวมซื้อ ไม่รวมภาษี - ราคาซื้อทั้งหมดในบรรทัดนี้ ยังไม่รวมภาษี (ราคาซื้อต่อหน่วย ไม่รวมภาษี x จำนวน)
                - รวมขาย รวมภาษีแล้ว - ราคาขายทั้งหมดในบรรทัดนี้ รวมภาษีแล้ว (ราคาขายต่อหน่วย รวมภาษีแล้ว x จำนวน)
                - รวมซื้อ รวมภาษีแล้ว - ราคาซื้อทั้งหมดในบรรทัดนี้ รวมภาษีแล้ว (ราคาซื้อต่อหน่วย รวมภาษีแล้ว x จำนวน)
                - ในส่วนตารางนี้ด้านบนของตารางจะมีช่องที่เขียนว่า "Drag a column header here to group by that column." ดังภาพ
graphic
- จากรูปด้านบนเราสามารถลาก Column (หัวข้อ) ที่เราต้องการจัดกลุ่มมาใส่ในนี้ได้ เช่นถ้าเราต้องการดู แบบให้แยกตามชื่อลูกค้า ก็ให้ลาก หัวข้อ ชื่อผู้ขาย มาวางตรงนี้ ดังรูป
graphic
                                - จากรูปด้านบนเมื่อเราวางหัวข้อลงไป แล้วตารางก็จะเปลี่ยนวิธีการแสดงโดยแยกการ แสดงออกเป็นกลุ่มของลูกค้า ดังภาพต่อไปนี้
graphic
                                - จากรูปด้านบนถ้าหากเรา กดเครื่องหมาย + หน้า ช่อง "ชื่อผู้ขาย: Supplier 1" แล้วจะได้ผลการแสดง รายการที่เป็นกลุ่มของ Supplier 1 ออกมาดังภาพ
graphic
                                - หรือถ้าในกรณีที่ลูกค้า มีมาก เราไม่อยากไปกดปุ่ม + ทีละรายการให้เสียเวลา ก็ให้ทำเครื่องหมายเช็คถูกที่ช่อง Expand Group (ขยายกลุ่ม) ที่อยู่ด้านบนของตาราง แล้วข้อมูลที่แสดงในตารางจะ ทำการแสดงรายละเอียดในแต่ละกลุ่มให้โดยอัตโนมัติ ดังภาพต่อไปนี้
graphic

3. ปุ่ม Search (ค้นหา) - มีไว้สำหรับค้นหารายการขายสินค้า แยกตามสินค้า โดยก่อนค้นหา สามารถระบุขอบเขตในการค้นหา ได้ที่ ส่วนที่ใช้สำหรับค้นหาข้อมูล (ส่วนที่ 1) จากนั้นกดปุ่ม Search (ค้นหา) เพื่อค้นหารายการที่ต้องการดู

หากต้องการออกจากหน้านี้ สามารถกดปุ่ม ESC ที่ Keyboard หรือ กดปุ่ม Close ที่หน้าจอเพื่อออกจากหน้านี้ได้