สามารถเข้าใช้งานหัวข้อนี้ได้จากเมนู [ Buy (ซื้อ) -> Buy (ซื้อสินค้า) ]
หัวข้อนี้ มีไว้สำหรับ ซื้อสินค้า
หัวข้อ ซื้อสินค้า ถือเป็นหัวข้อสำคัญ เพราะการที่จะเอาสินค้าเข้าคลังสินค้าได้ จะต้องทำโดยการซื้อสินค้าเข้า
หรือ รับโอนสินค้าจากสาขาอื่นเท่านั้น
ซื้อสินค้า (Buy) มีวิธีการใช้งานดังต่อไปนี้
- ระบบการซื้อสินค้าของโปรแกรม SabuySoft สามารถแบ่งได้เป็น 4 ระบบ คือ
3. ระบบซื้อสินค้าแบบสินค้าที่มีวันหมดอายุ - ระบบนี้จะใช้คู่กับ สินค้าที่มี Serial Number ไม่ได้
และต้องใช้ คู่กับ ระบบสินค้าที่สามารถติดลบได้เท่านั้น (Negative Stock) ซึ่งถ้าหากซื้อ Version อื่นไป
สามารถที่จะ Upgrade เพิ่มเติมได้
- เพื่อความเข้าใจ จะเริ่มอธิบายเรียงตามลำดับ จากระบบที่ 1 (ระบบปกติ) ไปจนถึงระบบที่ 4 (ระบบ Serial
Number)
- จากรูปด้านบน สามารถแบ่งขั้นตอนการใช้งาน เรียงตามตัวเลขดังนี้
1. ส่วนระบุข้อมูลใบซื้อส่วนบน - ส่วนนี้จะเป็นส่วนที่ใช้ระบุข้อมูลของใบซื้อนี้ เช่น ซื้อจากใคร,
เลขที่บิลอะไร, มีภาษีหรือไม่มีภาษี (ถ้ามีภาษี เป็นแบบแยกนอกหรือรวมใน) เป็นต้น
โดยสามารถอธิบายข้อมูลที่จะต้องป้อนตามนี้คือ
- ปุ่ม Supplier - มีไว้สำหรับเลือกผู้จำหน่าย ว่าใบซื้อใบนี้เราซื้อสินค้าจากใคร
ซึ่งจำเป็นต้องระบุ ไม่อย่างนั้นจะไม่สามารถบันทึกใบซื้อได้ ซึ่งถ้ากดปุ่มนี้แล้วจะมีหน้าต่างสำหรับเลือก
Supplier (ผู้จำหน่าย) ดังภาพด้านล่าง
- จากภาพด้านบน ให้ทำตามขั้นตอนนี้คือ
A . ให้ค้นหาผู้จำหน่ายที่ต้องการ
โดยอาจจะระบุเงื่อนไขในการค้นหาผู้จำหน่ายแล้วกดปุ่ม Search (ค้นหา)
B. หลังจากการค้นหาแล้ว รายการผู้จำหน่ายที่ค้นหาได้จะแสดงอยู่ในตาราง
Supplier Detail (รายการเจ้าหนี้) ให้ Click เลือกรายการผู้จำหน่ายที่ต้องการ จากในตาราง
- หากยังไม่เคยมีข้อมูลผู้จำหน่าย
สามารถเพิ่มรายการผู้จำหน่ายใหม่ในหน้านี้ได้เลย โดยการกดปุ่ม Add (เพิ่ม)
C. กดปุ่ม OK เพื่อยืนยันการเลือกผู้จำหน่าย
- ในกรณีที่รีบเร่ง สามารถ Double Click ที่รายการผู้จำหน่ายในตาราง
เพื่อยืนยันการเลือกผู้จำหน่าย ก็ได้
- หรือ Click เลือกรายการผู้จำหน่ายในตารางแล้วกดปุ่ม Enter
เพื่อยืนยันการเลือกผู้จำหน่ายก็ได้
- เมื่อเลือกรายการผู้จำหน่ายแล้ว ชื่อผู้จำหน่ายก็จะปรากฏอยู่ในหน้าซื้อ
- Bill Number (เลขที่บิล) - ให้ป้อนเลขที่ใบซื้อของ ผู้จำหน่าย (ถ้ามี)
ปกติเวลาซื้อสินค้าจากผู้จำหน่ายมา ถ้าได้รับใบเสร็จมาด้วย จะมีเลขที่บิลก็สามารถนำมาป้อนที่ช่องนี้ได้
ในการเก็บเลขที่บิลจะมีประโยชน์เวลาต้องการค้าหาใบซื้อ จะทำให้ค้นเจอได้ง่าย
- Date Time (วันที่) - ให้ระบุวันที่ซื้อของเข้า ถ้าผู้จำหน่ายมีใบเสร็จมาให้
ก็ควรจะป้อนวันที่ให้ตรงกับวันที่ ที่อยู่ในใบเสร็จ เพราะจะมีผลเวลารายงานภาษีซื้อภาษีขาย
จะได้แสดงได้ถูกต้อง
- ข้อควรระวังสำหรับการป้อน วันที่ซื้อ - ถ้าหากใช้ระบบสินค้าติดลบไม่ได้
จะไม่สามารถขายของที่ซื้อเข้ามาทีหลังได้ หรือกล่าวอีกอย่างว่า จะไม่สามารถขายสินค้า
ก่อนวันที่จะซื้อสินค้าได้ ถึงแม้ว่าจะป้อนใบซื้อก่อนที่จะเปิดใบขายแล้วก็ตาม เช่น ซื้อ สินค้า A มา 1 ชิ้น วันที่
2 มกราคา 2575 แต่เปิดใบขายวันที่ 1 มกราคม 2575 จะไม่พบสินค้า A ในคลังสินค้า เนื่องจากวันที่ 1 มกราคม
2575 ของยังไม่ได้เข้าคลัง แต่มาเข้าเอาวันที่ 2 มกราคม 2575
- Tax (ภาษี) - ให้เลือกว่า ใบซื้อใบนี้ มีภาษีหรือไม่มีภาษี โดยสามารถเลือกได้ดังนี้
- ยกเว้นภาษี (ไม่มีภาษี)
- คิดภาษี (มีภาษี)
- Credit (วัน) - ป้อนจำนวนวันที่ทางผู้จำหน่ายให้เครดิตเรา เพื่อที่จะได้เอาไว้ดูว่าใกล้ถึง
Deal ที่จะต้องชำระเงินให้กับผู้จำหน่ายหรือยัง
- Pay Type (วิธีการชำระเงิน) - ให้เลือกวิธีการชำระเงินใหักับผู้จำหน่าย
โดยสามารถเลือกได้ดังนี้
- เงินสด (Cash) - หลังจากบันทึกใบซื้อหมายความว่าได้ชำระเงินให้กับผู้จำหน่าย
รายนี้เป็นเงินสดไปแล้ว
-
Unknow - หลังจากบันทึกใบซื้อหมายความว่าใบซื้อใบนี้ยังไม่ได้
ชำระเงินให้ผู้จำหน่าย โดยมากจะใช้กับผู้จำหน่ายที่ให้เครดิตเรา ซึ่งสามารถทำรับชำระเงินภายหลังได้
ในการเลือก Unknow มีประโยชน์ตรงนี้ เราสามารถดูรายงาน เจ้าหนี้ค้างชำระได้
ว่าเรายังไม่ได้ชำระเงินให้กับผู้จำหน่ายรายไหนบ้าง และมีบิลไหนบ้าง ยอดเงินเท่าไหร่
- VAT Status (ลักษณะภาษี) - ระบุลักษณะภาษี ซึ่งการระบุนี้จะมีผลก็ต่อเมื่อเลือก Tax
(ภาษี) ให้เป็น คิดภาษี โดยสามารถเลือกได้ดังนี้
- ราคาสินค้า ยังไม่รวมภาษี (แยกนอก) - เช่น สินค้า 100 บาท ต้องคิดภาษีอีก 7%
เป็น 107 บาท
- ราคาสินค้า รวมภาษีแล้ว (รวมใน) - เช่น สินค้า 100 บาท รวมภาษี 7% แล้ว
และราคาก่อนคิดภาษี = 93.46 บาท
- จากใบสั่งซื้อเลขที่ - ตรงนี้จะป้อนข้อมูลเข้าไปไม่ได้ ซึ่งโปรแกรมจะดึง ID
ของใบสั่งซื้อมาโดยอัตโนมัติ เมื่อมีการทำรายการซื้อจากใบสั่งซื้อ
- ID - แสดง ID ของใบซื้อที่โปรแกรมสร้างขึ้น ถ้าหากเป็นการเปิดใบซื้อใบใหม่ ID
ตรงนี้จะแสดงเป็น 0 แต่พอบันทึกโปรแกรมจะใส่ค่า ID ให้เอง แต่ถ้าหากเป็นการแก้ไขใบซื้อ ID
ตรงนี้จะแสดง ID ของใบซื้อ ที่กำลังแก้ไขอยู่
- DocNo - แสดงหมายเลขเอกสาร (Document Number) ของใบซื้อที่โปรแกรมสร้างขึ้น
ถ้าหากเป็นการเปิดใบซื้อใบใหม่ DocNo ตรงนี้จะแสดงเป็น 0 แต่พอบันทึกโปรแกรมจะใส่ค่า DocNo ให้เอง
แต่ถ้าหากเป็นการแก้ไขใบซื้อ DocNo ตรงนี้จะแสดง DocNo ของใบซื้อ ที่กำลังแก้ไขอยู่
2. ส่วนตาราง Product (รายการสินค้า) - ส่วนนี้จะเป็นตารางที่ใช้แสดง รายการสินค้า
ที่จะซื้อในใบซื้อใบนี้ โดยแบ่งออกเป็นหัวข้อดังต่อไปนี้
- ลำดับ - ลำดับที่ เริ่มตั้งแต่ 1 ลงไป (หรือหมายถึงบรรทัดที่)
- ID - ID ของสินค้า
- รหัสสินค้า - รหัสของสินค้า
- Barcode - บาร์โค้ดของสินค้า
- ชื่อสินค้า - ชื่อสินค้า
- จำนวน - จำนวนที่ซื้อ
- หน่วย - หน่วยที่ซื้อ
- ราคาก่อนลด - ราคาซื้อสินค้าต่อหน่วยก่อนได้รับส่วนลด
- ส่วนลด % - ส่วนลดของสินค้าต่อหน่วยเป็น %
- ราคาหลังลด - ราคาซื้อสินค้าหลังจากหักส่วนลดแล้ว
- จำนวนเงิน - จำนวนเงินรวมหลังหักส่วนลดแล้วของสินค้าที่ซื้อในบรรทัดนี้ (จำนวน x
ราคาหลังลด )
- จำนวนสินค้าเป็นทศนิยมได้ - เช็คถูกหมายความว่าสินค้ารายการนี้สามารถ
ป้อนจำนวนเป็นทศนิยมได้
- ในส่วนบนของตาราง จะมีเครื่องหมาย
+ กับ - ที่ใช้เอาไว้สำหรับปรับขนาดตัวหนังสือ
ในตารางให้เล็กหรือใหญ่ได้ตามต้องการ
3. ส่วนปุ่มที่ใช้ในการจัดการข้อมูลในตาราง Product (รายการสินค้า) -
สามารถอธิบายตามปุ่มดังต่อไปนี้
- ปุ่ม Add (เพิ่มสินค้า) - ใช้สำหรับเพิ่มสินค้าที่จะซื้อลงในตาราง Product (รายการสินค้า)
โดยการเลือกสินค้า ซึ่งเมื่อกดปุ่มนี้แล้วจะมีหน้าเลือกรายการสินค้า Pop up ขึ้นมาดังภาพด้านล่าง
- จากภาพด้านบน ให้ทำตามขั้นตอนนี้คือ
A . ให้ค้นหาสินค้าที่ต้องการ โดยอาจจะระบุเงื่อนไขในการค้นหาสินค้าแล้วกดปุ่ม
Search (ค้นหา)
B. หลังจากการค้นหาแล้ว รายการสินค้าที่ค้นหาได้จะแสดงอยู่ในตาราง Product
Detail ให้ Click เลือกรายการสินค้าที่ต้องการ จากในตาราง
- หากยังไม่เคยมีข้อมูลสินค้า
สามารถเพิ่มรายการสินค้าใหม่ในหน้านี้ได้เลย โดยการกดปุ่ม Add (เพิ่มสินค้า)
C. กดปุ่ม OK เพื่อยืนยันการเลือกสินค้า
- ในกรณีที่รีบเร่ง สามารถ Double Click ที่รายการสินค้าในตาราง
เพื่อยืนยันการเลือกสินค้า ก็ได้
- หรือ Click เลือกรายการสินค้าในตารางแล้วกดปุ่ม Enter
เพื่อยืนยันการเลือกสินค้าก็ได้
- เมื่อเลือกรายการสินค้าแล้ว สินค้าจะเข้ามาอยู่ในหน้าซื้อ
โดยสามารถเลือกรายการสินค้าที่ต้องการ มากกว่า 1 รายการก็ได้ โดยเมื่อเลือกจนพอใจแล้วให้กดปุ่ม Close
เพื่อปิดหน้าเลือกรายการสินค้า
- ปุ่ม [F2] เพิ่มโดยใช้ Barcode - ใช้สำหรับเพิ่มสินค้าที่จะซื้อลงในตาราง Product
(รายการสินค้า) โดยการใช้เครื่องอ่านบาร์โค้ด ซึ่งเมือกกดปุ่มนี้แล้วจะมีหน้า เพิ่มสินค้าโดยใช้ Barcode
ดังภาพด้านล่าง
- จากภาพด้านบน Cursor จะกระพิบที่ช่อง Barcode ให้ทำการอ่านบาร์โค้ด
โดยใช้เครื่องอ่านบาร์โค้ด โดยให้อ่านบาร์โค้ดของสินค้าที่ต้องการซื้อแค่ครั้งเดียวต่อ 1 ชนิด
แล้วค่อยไปป้อนจำนวนซื้อ กับ ราคาซื้อเอาทีหลัง
- ถ้าหากว่าอ่านสำเร็จ จะมีชื่อสินค้าขึ้นมาที่ช่องแสดงชื่อสินค้าที่ป้อนโดยใช้
บาร์โค้ดรายการล่าสุด
- ในหน้านี้ให้เราใช้เครื่องอ่านบาร์โค้ดอ่านรายการที่จะซื้อจนพอใจแล้ว ให้กดปุ่ม
Close เพื่อปิดหน้าเพิ่มสินค้าโดยใช้ Barcode นี้
- ปุ่ม [F3] เพิ่มโดยใช้รหัสสินค้า - ใช้สำหรับเพิ่มสินค้าที่จะซื้อลงในตาราง Product
(รายการสินค้า) โดยใช้รหัสสินค้า ซึ่งเมื่อกกดปุ่มนี้แล้วจะมีหน้า เพิ่มสินค้าโดยใช้รหัสสินค้า ดังภาพด้านล่าง
- จากภาพด้านบนให้ป้อน รหัสสินค้าที่ช่อง Product Code แล้วกดปุ่ม Enter
ถ้ารหัสสินค้าถูกต้อง ในช่อง Product Name (ชื่อสินค้า) ก็จะแสดงชื่อสินค้าขึ้นมา
- จากนั้นให้ใส่ จำนวนซื้อ โดยจำนวนนี้จะเป็นจำนวนต่อหน่วยเล็กที่สุดเท่านั้น
(ถ้าต้องการแก้ไขหน่วยค่อยไปแก้ไขทีหลัง)
- จากนั้นให้ใส่ราคาก่อนลด และ ส่วนลด แล้วกดปุ่ม Enter ที่ช่อง Discount
(ส่วนลด) % แล้วรายการสินค้าก็จะเข้าไปอยู่ในหน้าซื้อสินค้า
- ปุ่ม Edit (แก้ไข) - ใช้สำหรับแก้ไข จำนวน, หน่วย, ราคาก่อนลด, ส่วนลด
ของรายการสินค้าที่ต้องการซื้อ ในบรรทัดที่เลือกอยู่ในตาราง Product (รายการสินค้า)
ซึ่งเมื่อกกดปุ่มนี้แล้วจะมีหน้า ต่างขึ้นมาดังภาพด้านล่าง
- จากภาพด้านบนจะมีรายการสินค้าอยู่ 3 บรรทัดโดยบรรทัดกลาง
จะแสดงรายการสินค้าที่ต้องการแก้ไข ส่วนบรรทัดบนจะเป็นบรรทัดของข้อมูลสินค้า
ที่อยู่บนบรรทัดที่ต้องการแก้ไข และ บรรทัดล่างจะเป็นบรรทัดของข้อมูลสินค้า
ที่อยู่ล่างบรรทัดที่ต้องการแก้ไข
- เราสามารถแก้ไขจำนวน, หน่วย, ราคาก่อนลด ส่วนลด % ในแต่ละบรรทัด
- วิธีการเลื่อนบรรทัดสามารถทำได้ 3 วิธีคือ
A. กดลูกศร ขึ้น เพื่อเลื่อนบรรทัดขึ้น
B. กดลูกศร ลง เพื่อเลื่อนบรรทัดลง
C. กดปุ่ม Enter จนกว่าจะเลื่อนบรรทัด - การกดปุ่ม Enter
นี้จะใช้ประโยชน์ได้มาก และประหยัดเวลาที่เราจะต้องเอา Mouse ไปเลือกแก้ไขทีละรายการ
โดยเมื่อป้อนจำนวนเสร็จ ให้กด Enter จากนั้นก็ป้อน ราคาก่อนลด แล้วกด Enter แล้วป้อนส่วนลด % แล้วกด
Enter ก็จะเป็นการเลื่อนบรรทัด
- ในหน้าจอนี้เราสามารถเลือกหน่วยได้ โดย Click ที่ Unit (F2)
ก็จะมีหน้าต่างสำหรับเลือกหน่วยขึ้นมาดังภาพ
โดยให้เราเลือกหน่วยที่ต้องการแล้วกดปุ่ม
OK เพื่อกลับไปหน้า
แก้ไขจำนวน, หน่วย และ ราคาสินค้า
- ข้อมูลจะถูกแก้ไขก็ต่อเมื่อทำการเลื่อนบรรทัดแล้วเท่านั้น
- ปุ่ม Del (ลบ) - ใช้สำหรับลบของรายการสินค้าที่อยู่ในตาราง Product (รายการสินค้า)
โดยเลือกรายการที่ต้องการลบออกจากตาราง Product (รายการสินค้า) แล้วกดปุ่ม Del (ลบ)
- ปุ่ม Edit Sell Price (แก้ราคาขาย) - ใช้สำหรับแก้ไขรายคาขาย
ซึ่งปกติแล้วการแก้ไขราคาขาย ต้องเข้าไปแก้หน้า Product (สินค้า) เท่านั้น แต่เวลาซื้อสินค้าเข้าบางทีราคาทุน
มีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม โดยอาจจะแพงขึ้น หรือถูกลง
เราก็ต้องการปรับราคาขายในขณะซื้อสินค้าไปพร้อมๆ กัน วิธีใช้ก็ให้เลือกรายการสินค้าที่อยู่ใน
รายการซื้อในตาราง Product (รายการสินค้า) แล้วกดปุ่มนี้แล้วจะมีหน้า แก้ไขราคาสินค้าขึ้นมา
ดังภาพด้านล่าง
- จากรูปด้านบนเป็นหน้าสำหรับแก้ไขราคาสินค้า โดยเราสามารถแก้ไข ราคาขาย
1, ราคาขาย 2, ราคาขาย 3, ส่วนลดสมาชิก 1, ส่วนลดสมาชิก 2, ส่วนลดสมาชิก 3
- ด้านขวาของราคา จะมีกรอบ ราคาที่เคยซื้อล่าสุด
เอาไว้ใช้สำหรับดูเป็นแนวทางในการ ตั้งราคาขาย และส่วนลดสำหรับสมาชิก
แต่ราคาซื้อล่าสุดที่ปรากฎนี้ ไม่ใช่ราคาซื้อของรายการสินค้าที่จะซื้อในบิลซื้อใบนี้
เพราะใบซื้อที่กำลังทำอยู่นี้ยังไม่ได้ ถูกบันทึก
- เมื่อแก้ไขราคาเสร็จแล้วให้กดปุ่ม OK เพื่อทำการบันทึกการแก้ไข หรือ
หากไม่ต้องการบันทึกให้กดปุ่ม Close เพื่อปิดหน้า แก้ไขราคาสินค้า
โดยไม่ทำการบันทึก
- ปุ่ม Last Buy Price (ดูราคาซื้อล่าสุด) - ปุ่มนี้ใช้สำหรับดูว่าราคาที่ซื้อล่าสุด ซื้อมาจากใคร
และ ราคาเท่าไหร่บ้าง วิธีใช้ก็ให้เลือกรายการสินค้าที่อยู่ใน รายการซื้อในตาราง Product (รายการสินค้า)
แล้วกดปุ่มนี้ (หากเลือก Supplier (ผู้จำหน่าย) ก่อนกดปุ่มนี้จะเป็นการดูราคาซื้อล่าสุด
เฉพาะของผู้จำหน่ายรายนี้เท่านั้น) แล้วจะมีหน้า ดูราคาซื้อล่าสุดขึ้นมา ดังภาพด้านล่าง
- จากภาพด้านบนจะแสดงให้เห็นราคาของสินค้าชื่อ Product 3 ที่ซื้อมา 5
รายการล่าสุด ว่าซื้อมาจากใคร วันที่เท่าไหร่ และ ราคาเท่าไหร่
- ถ้าต้องการออกจากหน้านี้ให้กดปุ่ม Close
4. ส่วนระบุข้อมูลใบซื้อส่วนล่าง - ส่วนนี้จะเป็นส่วนที่ใช้ระบุข้อมูลส่วนท้ายของใบซื้อนี้
มีข้อมูลที่สามารถป้อนได้ตามนี้คือ
- ส่วนลด % - ช่องนี้มีไว้สำหรับป้อนส่วนลด % โดยส่วนลดนี้จะเป็นส่วนลดทั้งใบซื้อ
ที่ลดหลังจากรวมราคาซื้อทุกรายการแล้ว
- ส่วนลดเงินสด - ช่องนี้มีไว้สำหรับป้อนส่วนลดเงินสด
โดยส่วนลดนี้จะเป็นส่วนลดทั้งใบซื้อ ที่ลดหลังจากรวมราคาซื้อทุกรายการแล้ว
2. ระบบซื้อสินค้าแบบมีสินค้าชุด - สินค้าชุดหมายถึง สินค้าที่ขายเป็นชุด เช่น ชุดกระเช้าของขวัญ ที่ประกอบด้วย เครื่องดื่ม, นมผง,
ช็อกโกแลต, ชาเขียว, ... เป็นต้น
- จากรูปด้านบนจะอธิบายเฉพาะส่วน ที่เป็นส่วนสินค้าชุดเท่านั้น เนื่องจากส่วนอื่นๆ
ได้อธิบายไว้ด้านบนแล้ว โดยสามารถอธิบายวิธีการใช้งานจะเรียงตามตัวเลขได้ดังนี้
1. ปุ่ม Add New Set (เพิ่มชุดสินค้าใหม่) - ใช้สำหรับเพิ่มสินค้าชุดที่จะขาย เวลากดปุ่มนี้แล้ว
จะมีหน้าต่างขึ้นมาให้ป้อน ชื่อสินค้าชุดดังภาพต่อไปนี้
- จากภาพด้านบนให้ป้อน ชื่อชุดสินค้า จากนั้นกด Enter หรือกดปุ่ม OK
เพื่อให้รายการชุดสินค้า ไปอยู่ในรายการซื้อสินค้า โดยมีจำนวน 1 ชุดและราคาเป็น 0 บาท
ซึ่งถ้าหากต้องการแก้จำนวนชุด และ ราคาที่ขาย ค่อยแก้ภายหลัง
2. ส่วนตาราง Product Set (รายการสินค้าในสินค้าชุด ต่อ 1 ชุด) - ส่วนนี้จะเป็นตารางที่ใช้แสดง
รายการสินค้าที่อยู่ในสินค้าชุด จำนวน 1 ชุด ซึ่งจะแสดงก็ต่อเมื่อ รายการสินค้าที่ Focus ในตาราง Product
(รายการสินค้า) เป็นสินค้าชุด โดยแบ่งออกเป็นหัวข้อดังต่อไปนี้
- ลำดับ - ลำดับที่ เริ่มตั้งแต่ 1 ลงไป (หรือหมายถึงบรรทัดที่)
- ID - ID ของสินค้า
- รหัสสินค้า - รหัสของสินค้า
- Barcode - บาร์โค้ดของสินค้า
- ชื่อสินค้า - ชื่อสินค้า
- จำนวน - จำนวนที่ซื้อ
- หน่วย - หน่วยที่ซื้อ
- จำนวนสินค้าเป็นทศนิยมได้ - เช็คถูกหมายความว่าสินค้ารายการนี้สามารถ
ป้อนจำนวนเป็นทศนิยมได้
3. ส่วนปุ่มที่ใช้ในการจัดการข้อมูลในตารางสินค้าที่อยู่ในชุด - ส่วนปุ่มนี้จะสามารถกดได้
ก็ต่อเมื่อมีการเลือกรายการสินค้าชุด ที่อยู่ในตาราง Product (รายการสินค้า)
โดยสามารถอธิบายตามปุ่มดังต่อไปนี้
- ปุ่ม 1 (เพิ่มสินค้า) - ใช้สำหรับเพิ่มสินค้าที่จะซื้อลงใน ตารางสินค้าที่อยู่ในชุดสินค้า
โดยการเลือกสินค้า ซึ่งเมื่อกดปุ่มนี้แล้วจะมีหน้าเลือกรายการสินค้า Pop up ขึ้นมาดังภาพด้านล่าง
- จากภาพด้านบน ให้ทำตามขั้นตอนนี้คือ
A . ให้ค้นหาสินค้าที่ต้องการ โดยอาจจะระบุเงื่อนไขในการค้นหาสินค้าแล้วกดปุ่ม
Search (ค้นหา)
B. หลังจากการค้นหาแล้ว รายการสินค้าที่ค้นหาได้จะแสดงอยู่ในตาราง Product
Detail ให้ Click เลือกรายการสินค้าที่ต้องการ จากในตาราง
- หากยังไม่เคยมีข้อมูลสินค้า
สามารถเพิ่มรายการสินค้าใหม่ในหน้านี้ได้เลย โดยการกดปุ่ม Add (เพิ่มสินค้า)
C. กดปุ่ม OK เพื่อยืนยันการเลือกสินค้า
- ในกรณีที่รีบเร่ง สามารถ Double Click ที่รายการสินค้าในตาราง
เพื่อยืนยันการเลือกสินค้า ก็ได้
- หรือ Click เลือกรายการสินค้าในตารางแล้วกดปุ่ม Enter
เพื่อยืนยันการเลือกสินค้าก็ได้
- เมื่อเลือกรายการสินค้าแล้ว สินค้าจะเข้ามาอยู่ในหน้าตารางสินค้าที่อยู่ในชุด
ในหน้าซื้อ โดยสามารถเลือกรายการสินค้า มากกว่า 1 รายการก็ได้ โดยเมื่อเลือกจนพอใจแล้วให้กดปุ่ม Close
เพื่อปิดหน้าเลือกรายการสินค้า
- ปุ่ม 2 (เพิ่มโดยใช้ Barcode) - ใช้สำหรับเพิ่มสินค้าที่จะซื้อลงในตาราง
สินค้าที่อยู่ในชุดสินค้า โดยการใช้เครื่องอ่านบาร์โค้ด ซึ่งเมือกกดปุ่มนี้แล้วจะมีหน้า เพิ่มสินค้าโดยใช้ Barcode
ดังภาพด้านล่าง
- จากภาพด้านบน Cursor จะกระพิบที่ช่อง Barcode ให้ทำการอ่านบาร์โค้ด
โดยใช้เครื่องอ่านบาร์โค้ด โดยให้อ่านบาร์โค้ดของสินค้าที่ต้องการซื้อแค่ครั้งเดียวต่อ 1 ชนิด
แล้วค่อยไปป้อนจำนวนซื้อเอาทีหลัง
- ถ้าหากว่าอ่านสำเร็จ จะมีชื่อสินค้าขึ้นมาที่ช่องแสดงชื่อสินค้าที่ป้อนโดยใช้
บาร์โค้ดรายการล่าสุด
- ในหน้านี้ให้เราใช้เครื่องอ่านบาร์โค้ดอ่านรายการที่จะซื้อจนพอใจแล้ว ให้กดปุ่ม
Close เพื่อปิดหน้าเพิ่มสินค้าโดยใช้ Barcode นี้
- ปุ่ม 3 เพิ่มโดยใช้รหัสสินค้า - ใช้สำหรับเพิ่มสินค้าที่จะซื้อลงในตาราง
สินค้าที่อยู่ในชุดสินค้า โดยใช้รหัสสินค้า ซึ่งเมื่อกกดปุ่มนี้แล้วจะมีหน้า เพิ่มสินค้าโดยใช้รหัสสินค้า
ดังภาพด้านล่าง
- จากภาพด้านบนให้ป้อน รหัสสินค้าที่ช่อง Product Code แล้วกดปุ่ม Enter
ถ้ารหัสสินค้าถูกต้อง ในช่อง Product Name (ชื่อสินค้า) ก็จะแสดงชื่อสินค้าขึ้นมา
- จากนั้นให้ใส่ จำนวนซื้อ โดยจำนวนนี้จะเป็นจำนวนต่อหน่วยเล็กที่สุดเท่านั้น
(ถ้าต้องการแก้ไขหน่วยค่อยไปแก้ไขทีหลัง)
- จากนั้นกดปุ่ม Enter ที่ช่อง Number (จำนวน)
แล้วรายการสินค้าก็จะเข้าไปอยู่ในหน้าซื้อสินค้า ในส่วนของสินค้าที่อยู่ในชุดสินค้า
- ปุ่ม 4 (แก้ไข) - ใช้สำหรับแก้ไข จำนวน, หน่วย ของรายการสินค้าที่อยู่ในชุดสินค้า
ในบรรทัดที่เลือก ซึ่งเมื่อกกดปุ่มนี้แล้วจะมีหน้า เพิ่มต่างขึ้นมาดังภาพด้านล่าง
- จากภาพด้านบนจะมีรายการสินค้าอยู่ 3 บรรทัดโดยบรรทัดกลาง
จะแสดงรายการสินค้าที่ต้องการแก้ไข ส่วนบรรทัดบนจะเป็นบรรทัดของข้อมูลสินค้า
ที่อยู่บนบรรทัดที่ต้องการแก้ไข และ บรรทัดล่างจะเป็นบรรทัดของข้อมูลสินค้า
ที่อยู่ล่างบรรทัดที่ต้องการแก้ไข
- เราสามารถแก้ไขจำนวน, หน่วย ในแต่ละบรรทัด
- วิธีการเลื่อนบรรทัดสามารถทำได้ 3 วิธีคือ
A. กดลูกศร ขึ้น เพื่อเลื่อนบรรทัดขึ้น
B. กดลูกศร ลง เพื่อเลื่อนบรรทัดลง
C. กดปุ่ม Enter เพื่อเลื่อนบรรทัดลง
- ในหน้าจอนี้เราสามารถเลือกหน่วยได้ โดย Click ที่ Unit (F2)
ก็จะมีหน้าต่างสำหรับเลือกหน่วยขึ้นมาดังภาพ
โดยให้เราเลือกหน่วยที่ต้องการแล้วกดปุ่ม
OK เพื่อกลับไปหน้า
แก้ไขจำนวน, หน่วย และ ราคาสินค้า
- ข้อมูลจะถูกแก้ไขก็ต่อเมื่อทำการเลื่อนบรรทัดแล้วเท่านั้น
- ปุ่ม 5 (ลบ) - ใช้สำหรับลบของรายการสินค้าใน ตารางสินค้าที่อยู่ในชุดสินค้า
โดยเลือกรายการที่ต้องการลบ แล้วกดปุ่ม 5 (ลบ)
3. ระบบซื้อสินค้าแบบมีสินค้าที่มีวันหมดอายุ - ในหน้าซื้อ ของระบบสินค้าที่มีวันหมดอายุ จะสามารถระบุได้ว่าสินค้าที่กำลังจะซื้อนี้
หมดอายุวันไหน ซึ่งในระบบสินค้าหมดอายุ สามารถใช้คู่กับระบบ สินค้าชุดได้ โดยในส่วน Help
นี้จะอธิบายระบบสินค้าหมดอายุ ที่ใช้คู่กับระบบสินค้าชุดไปด้วยกัน ซึ่งเนื้อหาจะครอบคลุมกว่า
- จากรูปด้านบนจะอธิบายเฉพาะส่วน ที่เป็นส่วนสินค้าที่มีวันหมดอายุเท่านั้น เนื่องจากส่วนอื่นๆ
ได้อธิบายไว้ด้านบนแล้ว โดยสามารถอธิบายวิธีการใช้งานเรียงตามตัวเลขได้ดังนี้
1. ส่วนตารางวันหมดอายุของสินค้า - ในตารางนี้จะแสดงวันหมดอายุของสินค้า
ของรายการสินค้าบรรทัดที่ Focus อยู่ในตารางสินค้า หรือ ตารางสินค้าที่อยุ่ในชุดสินค้า
โดยจะแสดงจำนวนสูงสูดที่ สามารถป้อนวันหมดอายุได้ และจำนวนที่ป้อนไปแล้วในขณะนี้
โดยในตารางสามารถแบ่งออกเป็นหัวข้อดังต่อไปนี้
- Expire Date - วันหมดอายุของสินค้า
- จำนวน - จำนวนของสินค้าที่หมดอายุในวันที่ระบุใน Expire Date
3. ส่วนปุ่มที่ใช้ในการจัดการข้อมูลในตารางวันหมดอายุ - สามารถอธิบายตามปุ่มดังต่อไปนี้
- ปุ่ม 6(เพิ่มExpire) - ใช้สำหรับเพิ่มวันหมดอายุสินค้าลงในตารางวันหมดอายุ
ซึ่งเมื่อกดปุ่มนี้แล้วจะมีหน้าให้ป้อนวันหมดอายุ ขึ้นมาดังภาพด้านล่าง
- จากภาพด้านบนให้เลือกวันที่หมดอายุ ของสินค้า แล้วระบุจำนวน
สินค้าที่หมดอายุในวันที่เลือก จากนั้นกดปุ่ม OK เพื่อเพิ่มจำนวนวันหมดอายุลงในตาราง วันหมดอายุ
- ปุ่ม 7(ลบExpire) - ใช้สำหรับลบรายการวันหมดอายุของสินค้า ออกจากตารางวันหมดอายุ
โดยเลือกรายการที่ต้องการลบ แล้วกดปุ่ม 7(ลบExpire)
4. ระบบซื้อสินค้าแบบมีสินค้าที่มี Serial Number - Serial Number หมายถึง หมายเลขประจำตัวของสินค้า ซึ่งหมายเลขที่สามารถเป็นตัวเลข หรือ
ตัวอักษรก็ได้ ที่ไม่ซ้ำกันเลยในในสินค้าชนิดเดียวกัน
- ในหน้าซื้อสามารถป้อน Serial Number ของสินค้าที่จะซื้อได้ โดยระบบสินค้าที่มี Serial Number
สามารถใช้คู่กับระบบ สินค้าชุดได้ โดยในส่วน Help นี้จะอธิบายระบบสินค้าที่มี Serial Number
ที่ใช้คู่กับระบบสินค้าชุดไปด้วยกัน ซึ่งเนื้อหาจะครอบคลุมกว่า
- จากรูปด้านบนจะอธิบายเฉพาะส่วน ที่เป็นส่วน Serial Number เท่านั้น เนื่องจากส่วนอื่นๆ
ได้อธิบายไว้ด้านบนแล้ว โดยสามารถอธิบายวิธีการใช้งานเรียงตามตัวเลขได้ดังนี้
1. ส่วนตาราง Serial Number - ในตารางนี้จะแสดง Serial Number ของรายการสินค้าบรรทัดที่
Focus อยู่ในตารางสินค้า หรือ ตารางสินค้าที่อยุ่ในชุดสินค้า โดยจะแสดงจำนวนสูงสูดที่ สามารถป้อน Serial
Number ได้ และจำนวนที่ป้อนไปแล้วในขณะนี้ โดยในตารางสามารถแบ่งออกเป็นหัวข้อดังต่อไปนี้
- Serial Number - หมายเลขประจำตัวสินค้า ที่ในสินค้าชนิดเดียวกันจะไม่ซ้ำกัน
3. ส่วนปุ่มที่ใช้ในการจัดการข้อมูลในตาราง Serial Number - สามารถอธิบายตามปุ่มดังต่อไปนี้
- ปุ่ม 6(เพิ่มSerial) - ใช้สำหรับเพิ่ม Serial Number ลงในตาราง Serial Number
ซึ่งเมื่อกดปุ่มนี้แล้วจะมีหน้าให้ป้อน Serial Number ขึ้นมาดังภาพด้านล่าง
- จากภาพด้านบนให้ป้อน Serial Number แล้วกด Enter หรือ กดปุ่ม OK เพื่อเพิ่ม
Serial Number ลงในตาราง Serial Number
- การป้อน Serial Number ควรใช้เครื่องอ่านบาร์โค้ดเป็นตัวป้อน
เพราะจะกันการป้อนผิด
- ปุ่ม 7(ลบExpire) - ใช้สำหรับลบรายการ Serial Number ของสินค้า ออกจากตาราง Serial
Number โดยเลือกรายการที่ต้องการลบ แล้วกดปุ่ม 7(ลบExpire)
- ปุ่ม 8(เพิ่มช่วง Serial) - ใช้สำหรับเพิ่ม Serial Number ที่มีหมายเลข Serial Number Run
ต่อๆ กัน (เช่น A001, A002, A003, A004, ... A100) ลงในตาราง Serial Number
ซึ่งเมื่อกดปุ่มนี้แล้วจะมีหน้าให้ป้อน Serial Number ขึ้นมาดังภาพด้านล่าง
- จากภาพด้านบนให้ป้อน Serial ส่วนแรก ในตัวอย่างจะเป็น "A"
- จากนั้นป้อน Serial ส่วนหลัง 1 ในตัวอย่างจะเป็น "001"
- จากนั้นป้อน Serial ส่วนหลัง 2 ในตัวอย่างจะเป็น "001"
- จากตัวอย่างที่ป้อนหมายความว่าจะป้อน Serial Number จำนวน 100
เลขโดยเรียงจาก A001, A002, A003, A004, A005, ... จนถึง A100
- เมื่อป้อนเสร็จแล้วให้กดปุ่ม OK เพื่อเพิ่มกลุ่ม Serial Number ลงในตาราง Serial
Number
- หลังจากเราป้อนข้อมูล ในใบซื้อทั้งหมดครบถ้วนแล้ว ให้กดปุ่ม [F9] OK (Save)
เพื่อทำการบันทึกรายการซื้อสินค้าใบนี้ แล้วของก็จะเข้าคลังสินค้า
- ถ้าหากต้องการออกจากหน้าซื้อสินค้า โดยไม่ต้องการบันทึกรายการซื้อ ให้กดปุ่ม Cancel
เพื่อยกเลิกการทำรายการซื้อสินค้า